[Mentor แบบชัชๆ] เทคนิคหาเวลาให้ตัวเองสำหรับคนไม่มีเวลา

Mentor Profile: APAC Lead, Global Consulting Firm

Me: ตั้งแต่ Work From Home ช่วงโควิด ผมรู้สึกว่าตารางเต็มไปด้วย meeting back to back ไม่มีเวลาพักสั้นๆ เหมือนเมื่อก่อนที่มีเวลาเดินทางไปหาลูกค้า หรืออย่างน้อยก็เดินเปลี่ยนห้องประชุม

Mentor: ผมก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกันครับ

Me: พี่มีเทคนิคอะไรแนะนำมั้ยครับ ผมว่าตัวเองไม่สามารถทำงานแบบนี้ได้ยาวๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

Mentor: อย่างแรกที่ผมทำคือการ block เวลาให้ตัวเอง ทั้งเพื่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และเวลาสำหรับ deep work

Me: พี่ช่วยขยายความหน่อยครับ

[Mentor แบบชัชๆ] เทคนิคทำให้พนักงานอยากลองหมุนไปงานใหม่ (lateral move)

Mentor Profile: Vice President, Leading Food and Beverage in Thailand

Me: ทีมที่พี่ดูอยู่มีแต่คนรุ่นใหม่ หัวกระทิ แต่ด้วยโครงสร้าง น้องๆ ในทีมคงไม่ได้ขึ้นง่ายๆ เหมือนทีมอื่น พี่มีวิธีรักษาคน และดูแลเรื่อง career ยังไงเหรอครับ

Mentor: คุณรู้มั้ย ผมอยู่ปวดหัวกับปัญหานี้มานาน เพราะเด็กรุ่นใหม่ยิ่งเก่งๆ แบบนี้ ถ้าทำงานแบบไม่เห็น career ก็คงอยู่กับเราไม่นาน

Me: พี่เคยมีโอกาสลองใช้ lateral move กับทีมรึยังครับ

Mentor: ผมลองแล้ว ตอนแรกไม่มีคนอยากย้ายเลย น้องๆ กลัวการออกจาก comfort zone กลัวย้ายไปงานใหม่แล้วทำพลาด ผมกลับมาคิดและลองวิธีใหม่ซึ่ง work มาก ตอนนี้ทำมา 3 รุ่นแล้ว มีคนสนใจอยากย้ายงานเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นแรกเยอะเลย

Me: พี่ทำยังไงเหรอครับ ช่วยขยายความหน่อย

[Mentor แบบชัชๆ] ทักษะที่สำคัญที่สุดของพนักงานในปัจจุบัน

Mentor Profile: President, Leading Retails in Thailand

Me: หลังจากวิกฤติโควิด-19 พี่ว่าทักษะอะไรที่สำคัญที่สุดที่มองหาในองค์กร

Mentor: ตอนแรกผมนึกถึง Hard skills กับ Soft skills หลายๆ ตัว แต่คิดอีกทีผมว่า การพัฒนาตัวเอง (self development) อย่างสม่ำเสมอเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด ที่ผมอยากให้พนักงานมี

Me: ช่วยขยายความหน่อยครับ

Mentor: โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่ปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ต้องนับ เพราะอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้ยอมปรับตัว แต่รอให้องค์กรป้อนก็อาจไม่ทันแล้ว ต้องมี drive ที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด

Me: ในฐานะผู้นำองค์กร อะไรที่ทำให้พี่พัฒนาตัวเองไม่หยุดเหรอครับ

[Mentor แบบชัชๆ] ทำดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ

[Mentor Profile] President, Thailand Government Agency

Me: ถ้าให้ท่านลองประเมินดูระบบต่างๆ ขององค์กร ตอนนี้ท่านมีความพอใจประมาณเท่าไหร่ในสเกล 1-10

Mentor: คำถามแบบนี้ผมตอบไม่ได้ เพราะเกณฑ์ของผมขยับขึ้นตลอดเวลา บางงานทีมผมส่งมาให้ผมปีนี้ผมให้ดีมาก แต่ถ้าทำเหมือนเดิมอีกในปีหน้าผมก็มองว่าเฉยๆ

ไม่ใช่เพราะผมจะแกล้งทีม แต่เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนตลอดเวลา ตั้งแต่ความต้องการของลูกค้า ความคาดหวังของ stakeholder และเทคโนโลยีต่างๆ แล้วถ้าเราทำเหมือนเดิม มันก็ไม่พอที่จะแข่งขันกับคนอื่นได้

ทีมผมจะบ่นว่าเหนื่อยตลอด ทำเสร็จก็ปรับ ทำเสร็จก็เปลี่ยน แต่มันต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าเป็นที่หนึ่งของห้อง คุณอยู่ผิดห้องแล้ว เช่นกันถ้าคุณทำงานได้ยอดเยี่ยมไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม คุณก็ควรจะย้ายองค์กร เพื่อพัฒนาและเติบโตที่อื่น

Me: แล้วท่านมองว่าทักษะอะไรเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับพนักงานและผู้บริหารในการทำงานในโลกปัจจุบันครับ

[Mentor แบบชัชๆ] เมื่อเบอร์หนึ่งต่างชาติมาบริหารทีมไทย

[Mentor Profile] Vice President and Thailand Country Manager, Global Fortune 100 company

Me: คุณมีวิธีเลือก และสื่อสาร strategic priority ขององค์กรยังไงครับ?

Mentor: หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน ผมมองแบบง่ายๆ ว่า Priority ของผมคือ เราต้องการจะโตอย่างยั่งยืน ซึ่งในมุมมองของบริษัท Global แล้วไทยเป็นประเทศเล็กๆ เราต้องการโตเพื่อสามารถขอ resource และ support ต่างๆ จาก Global ได้มากขึ้น เพื่อช่วยให้เราโตได้อีก และผมพยายามสื่อสารกับทั้งผู้บริหาร และพนักงานอย่างต่อเนื่องให้เห็นภาพนี้ตรงกัน

Me: การที่คุณเป็นคนอเมริกันมาบริหารคนในองค์กรที่เป็นคนไทยเกือบทั้งหมด คุณมีวิธีในการบริหารอย่างไร?

Mentor: ผมมาประจำที่ไทยได้เกือบ 4 ปี ก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนที่ผมมา พนักงานหลายคนชมว่าผมหล่อ ซึ่งถ้าเป็นที่อเมริกา ปกติคนจะไม่ค่อยชมกันแบบนี้ ถ้ามีคนชมว่าคุณหล่อ จะแปลได้ 2 อย่าง คือ คุณหล่อจริงๆ หรือเขาพยายามที่จะชมเพื่อหวังผลประโยชน์